หากพูดถึงนักเตะสัญชาติอังกฤษที่มีความฝัน มีคุณภาพ และ ราคาค่าตัวที่สมดุลกับความสามารถ ก็คงจะนึกออกได้อยากว่าเขาคือใครในความโดดเด่นสมกับราคาที่สโมสรซื้อมา วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องของ นักเตะอังกฤษรายนี้กัน ที่มีสถิติค่าตัวแพงที่สุดในการย้ายทีมเป็นประวัติศสาสตร์ของเขา คือ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง นักเตะสัญชาติอังกฤษ
ชื่อที่เรียกอีกชื่อว่า ราฮีม ชาควิลล์ สเตอรลิง บ้านเกิดที่แท้จริงของ สเตอร์ลิ่ง คือเมืองคิงส์ตัน ประเทศจาไมกา ในวัย 5 ขวบ ก็ได้ย้ายครอบครัวไปอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จากเวลานั้นมาเขาก็ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อังกฤษ สเตอร์ลิง เริ่มเอาเท้าสัมผัสกับลูกบอลมาตั้งแต่เด็ก จนคัดฟุตบอลติด สโมสร ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส ในชุดเยาวชน และ เซ็นสัญญาทันที ใช้เวลาฝึกฝนฝีเท้าอยู่นานถึง 4 ปี เขาพิสูจน์ความพร้อมในการเล่นในชุดใหญ่ของทีม โดยการสร้างฟอร์มการเล่นในชุดทีมสำรองสโมสร ถือเป็นการพลิกโอกาสครั้งใหม่ของ เตอร์ลิง ทำให้มีชื่อเสียงจนทีมดังอย่าง ลิเวอร์พูล ( หงส์แดง ) สนใจในฟอร์มการเล่นของตน จากนั้นเซ็นสัญญาฉบับแรกก็ยื่นให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เซ็นต์ทันที แบบไม่ลังเลใจ
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ก้าวเท้าเข้าสู่สโมสร ลิเวอร์พูล ในชุดเยาวชน วัย 16 ปี ด้วยค่าตัว 30 ล้านบาท ทำให้เขามีชื่อเสียงดังไปไกลถึง ประเทศจาไมกา บ้านเกิดที่จากมา 11 ปี ตั้งแต่เข้าสู่สโมสรมา ตนได้เร่งพัฒนาฝีเท้าเพื่อจะได้ไต่เด้าขึ้นสู่ชุดใหญ่ของ ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มอยู่ในชุดเล็กได้ไม่นาน เบรนแดน ร็อดเจอร์ ก็ได้เล็งเห็นว่าเขามีฟอร์มที่ไม่ธรรมดา น่าจะใช้ได้งานได้จึงดึง สเตอร์ลิง ขึ้นสู่ชุดใหญ่ นัดแรกที่ลงประเดิมสนามให้กับ หงส์แดง ก็คงเป็นนัดที่ เจอกับ วีแกน แอธเลติก ในฐานะตัวสำรองลงไปแก้เกม นัดที่ ลิเวอร์พูลตัดสินใจขยายสัญญาจริงๆ คือนัด ลิเวอร์พูล พบกับ เชลซี ทีมชนะ ไป 4-1
แน่นอนว่า สเตอร์ลิงมีส่วนร่วม ในการทำประตู และ ชัยชนะในนัดนี้ด้วย การเป็นที่ฮือฮาของแฟนบอล หงส์แดง กันใหญ่โต เขา อยู่มาได้สักพัก ได้ทำเรื่องขอขึ้นสู่บัญชีการขาย เหตุผลที่เจ้าหนูเตอร์ลิง ร้องขอเพราะ อยากได้แชมป์พรีเมียร์ลีกในแก่ตัวเองจึงต้องออกตามหาสิ่งที่ดีกว่า นั้นก็คือสโมสร แมนเซสเตอร์ ซิตี้ ที่คว้าตัวเขาออกจากตลาดเข้าสู่ทีม ด้วยค่าประมาณ 2.45 พันล้านบาทสูงที่สุดของสโมสรบอลเต็งอย่างแมนซิตี้ ซึ่งทาง ลิเวอร์พูลยินยอมในการของแบบไม่ต้องคิดอะไรเพราะว่าค่าตัวสูงมาก เบรนแดน ร็อดเจอร์ ยิ้มไม่มีหุบ
สถิติค่าตัวแพงของดาวรุ่งช่วงวัย 21
เขาทำไว้ในเรื่องสถิติค่าตัวของการค้าแข้งคือ เป็นผู้เล่นวัยเพียง 21 ปี ที่มีค่าตัวแพงที่สุด เป็นนักเตะของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แพงที่สุดที่สโมนสรเคยมีมา และ ยังติดสถิติค่าตัวในอันดับที่ 13 ของโลกที่แดงที่สุด แถมเป็นนักเตะ พรีเมียร์ลีก อันดับ 3 ของลีก แน่นอนว่า เขาย้ายทีมเพื่อจะไล่ล่าคนฝันคือการได้เป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ ได้มีชื่อติดทีมชาติ เจ้าหนูสเตอร์ลิงได้ลงประเดิมสนามแมตซ์แรกด้วยการซัดประตูแรกให้ แทนซิตี้ขึ้นนำ วัดฟอร์ด และ เอาชนะในเกมนั้นไปได้ สเตอร์ลิงไม่รอช้าเร่งทำฟอร์มให้ตัวเองมีผลงานคือทำ แฮกทริคให้กับตัวเองครั้งแรกในชีวิต ทำให้แฟนบอลลืมค่าตัวที่สโมสรคว้าตัวเขามาเลยทันที แต่ในฤดูกาลนั้น แมนฯ ซิตี จบได้แค่อันดับ 4 ของ พรีเมียร์ลีก
ฤดูกาลต่อมา ผู้จัดการทีมอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จัดระบบการเล่นใหม่หมด จนทำให้ ทีมกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งแบบไม่ต้องสงสัย เพราะ นักเตะในทีมล้วนมีคุณภาพกันทั้งนั้น รวมถึง สเตอร์ลิง ด้วย แน่นอนว่าฤดูกาลต่อจากนี้ ฝันที่วางไว้ของเจ้าหนูน้อยก็ได้เป็นจริง สโมสรสอยถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จ และ ไม่ใช่แค่สมัยเดียว เป็นแชมป์ติดกันถึง 2 สมัย กลายเป็นฝันที่เป็นจริงไปได้ เวลาต่อมาไม่นอน ฝันที่ 2 ของเขาก็ตามมาคือการทีมชาติอังกฤษ แน่นอนว่า ฟอร์มดีแบบนี้ ยังไงประเทศก็ไม่มีพลาดที่จะเรียกติดเพื่อรับใช้ชาติ ก้าวแห่งความฝันของ เจ้าหนูสเตอร์ลิง ก็เป็นจริง และ โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยม ได้ตลอดกาล