นักฟุตบอลมืออาชีพสมัยก่อนมีอายุต่ำกว่า 20 ปีทั้งนั้น ถือว่าเป็นวัยกำลังน่าค้นหาแต่จะมี 3 นักเตะที่เรามานำเสนอในวันนี้ เขาเป็นนักเตะชาวอิตาลีที่ดุดันและแข็งแกร่ง แต่ก็ต้องพลาดท่าให้กับอาการบาดเจ็บ ถึงเขาจะแขวนสตั๊ดกันไปแล้วแต่ความทรงจำที่มีอยู่นั้นคือภาพที่พวกเขานั้นโลดแล่นไปบนสนามฟุตบอล กับลีลาท่าทางอันน่าเหลือเชื่อ จนไม่มีใครอยากลืม เรียกได้ว่ามีเสน่ห์ทุกครั้งที่เคลื่อนไหวเป็นขวัญใจของแฟนบอลทั้งนอกและในสนาม เรื่องราวดีๆของพวกเขาจะเป็นยังไงต้องมาติดตามกัน

จานนี่ ริเวร่า

ตำนานวัยเก๋าของสโมสร เอซีมิลาน จานนี่ ริเวร่า เด็กหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ทางด้านฟุตบอล และเป็นถึงดีกรีรางวัล บัลลงดอร์ ที่ทุกคนต่างรู้จักกันดี เขานั้นสวมหมายเลข 10 และเล่นตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ เรียกได้ว่าตอนนั้นเขา เป็นขวัญใจของแฟนบอลทั้งนอกสนามและในสนาม เพราะมีรูปร่างหล่อเหลาเอาการ สาวๆเห็นแล้วแทบกรี๊ดไม่หยุด ขอเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกที่เปลี่ยนตำแหน่งมาเล่นกองกลาง จากการขยับแผนของผู้จัดการทีม เอซีมิลาน ไม่ใช่มีดีแค่หน้าตา

สำหรับ จานนี่ ความเป็นผู้นำเขาก็มีอีกด้วยได้เป็นกัปตันทีมเมื่อยุค 60 ตั้งแต่เขามีอายุเพียงแค่ 20 ปีและการเป็นตัวหลักของทีมตลอดมา เขาเล่นให้สโมสร เอซีมิลาน ตั้งแต่อายุ 19 ปี และสถิติ ผลบอลสด888 รวมของเขาใน 658 นัด ยิงไปแล้ว 164 ประตู ได้แชมป์เกือบทุกรายการ แต่ก็อย่างว่าคนเรามีดีแล้วก็ต้องมีเสีย เขาได้พลาดโอกาสอันน่าเสียดายไปจากเหตุการณ์ที่เขานั้นไม่ติดทีมชาติอิตาลี ทำให้อดไปชิงแชมป์ยูโรปี 1968 แต่ถึงอย่างไรนั้นในที่สุดเขาก็ติดทีมชาติอิตาลีได้และไปลุยศึกฟุตบอลโลกปี 1970 แต่สุดท้ายก็พลาดถ้าให้กับทีมชาติบราซิล อดได้แชมป์ไปในปีนั้น

โรแบร์โต้ บาจโจ้

โรแบร์โต้ บาจโจ้ อีกหนึ่งคนที่มีอายุน้อยร้อยลีลาของวงวงการฟุตบอล ยอดดาวยิงของ อินเตอร์ มิลาน ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือทรงผมถักเปียอันสวยงามและบวกกับหน้าตาที่หล่อเหลาของเขาอีกด้วย โรแบร์โต้ บาจโจ้ มีความสามารถพิเศษในการเลี้ยงบอลผ่านแบบอัจฉริยะ ลากเลื้อยได้พริ้วไหวดั่งสายน้ำ เขาถนัดเท้าทั้ง 2 ข้าง และจดสกอร์แบบแม่นยำได้ทุกจังหวะ

โรแบร์โต้ บาจโจ้ เขาเป็นบุคคลที่ทุกคนต่างเสียดายในระยะเวลาการค้าแข้งของเขานั้นสั้นมากกว่าคนอื่นเนื่องด้วยอาการบาดเจ็บที่รุนแรงและไม่สามารถที่จะหวนกลับมาลงสนามได้อีกครั้งแต่อย่างไรก็ตามเขายังคงเป็นที่หนึ่งในใจของแฟนบอลมาตลอดมา เพราะลีลาท่าทางของเขานั้นตอนเล่นฟุตบอลมันมีเสน่ห์เหลือเกิน ส่วนรางวัลที่เขาเคยได้ก็มีบัลลงดอร์ในปี 1993 ในยุคที่เขาค้าแข้งกับยูเวนตุส แต่ก็ต้องจากลาวงการฟุตบอลอาชีพเพราะอาการบาดเจ็บที่ไม่มีวันหาย ถึงแม้ใจเขาจะรักแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องจำใจที่จะต้องหยุดทำในสิ่งที่ตนรัก

อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่

อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ อดีตนักฟุตบอลดาวรุ่งของทีม ยูเวนตุส ผู้สืบสานตำนานหมายเลข 10 ต่อจาก บาจโจ้ เขามาแทนที่ปาโจได้เพราะว่าช่วงนั้น บาจโจ้ บาดเจ็บเลยต้องออกจากสโมสร แน่นอนว่านักเตะรายนี้ทำชื่อเสียงให้ยูเวนตุสได้มากพอสมควร มีสไตล์การเล่นที่ดุดัน และตำแหน่งที่เล่นคือตำแหน่งกองหน้าต่ำ มีความคมและแม่นยำในการทำประตูในแต่ละครั้งที่ได้จับบอล เลี้ยงบอลผ่านผู้ต่อสู้ได้แบบไม่ต้องลังเล เรื่องฟอร์มการเล่นของเขานั้นต้องบอกหรือว่า เทียบเท่ากับสมัยยุค 50 ที่มีแต่เหล่านักเตะมีพรสวรรค์ทางด้านกีฬาฟุตบอลอย่างแท้จริง

เริ่มค้าแข้งกับยูเวนตุสตอนอายุ 19 ปี สโมสรแรกที่เขาไปคือสโมสร ปาโดว่า ผลงานในฟุตบอลโลกถือว่าทำได้ดี เคยคว้าแชมป์ในปี 2006 กับทีมชาติอิตาลี เกือบทุกรายการ แล้วสุดท้ายเขาก็ได้แขวนสตั๊ดทำนองเดียวกับ บาจโจ้ ที่มีอาการบาดเจ็บเข้ามาแทรกทำให้ชีวิตเขาต้องดับลง มันเป็นอาการบาดเจ็บที่ทำให้เขาปวดใจที่สุดเพราะว่าเขาเกือบได้รางวัล บัลลงดอร์ ไปคลองในปีนั้นแต่ดันมาพลาดท่าให้กับอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า แผลนี้เขาไม่มีวันลืมทำได้แค่ยอมรับความจริงแล้วอยู่กับตัวเองให้มากที่สุด